WELCOME TO GIFTED SCI's site :)
สาสน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงน้อง ๆ .. ผู้มีความฝัน ความหวัง ความตั้งใจ : )
จากพี่ ๆ นักเรียนในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์รุ่นที่ 8
รายละเอียดโดยย่อของโครงการนี้ ฉบับอ่านง่าย เข้าใจไวค่ะ !
โครงการพัฒนาศักยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือกิฟท์วิทย์ เป็นโครงการอย่างหนึ่งที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้ตั้งขึ้น เพื่อเน้นการพัฒนาให้กับนักเรียนที่มีความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ
โครงการนี้ได้ตั้งมาแล้วแปดปี และกำลังย่างเข้าสู่ปีที่9 พี่ๆ GS8 ทุกคน กำลังรอต้อนรับน้องใหม่อย่างใจจดใจจ่อ แต่น้องๆหลายคน คงกำลังสงสัยเกี่ยวกับโครงการนี้สินะคะ^ ^ คือ..น้องจะต้องสอบให้ติดเตรียมอุดมศึกษาก่อนเป็นอย่างแรก ถึงจะสามารถที่จะสมัครเข้าเรียนโครงการนี้ได้ และนอกจากจะมีกิฟท์วิทย์แล้ว ก็มีกิฟท์เลข กิฟท์อังกฤษ ฯลฯ ในที่นี้พี่จะไม่กล่าวถึง ส่วนการสอบเข้าโครงการจะแล้วแต่ปีนะคะ เช่นปีของรุ่นพี่ของพี่(GS7)จะเป็นการสอบสัมภาษณ์ แต่ปีของพี่นั้นจะเป็นการสอบข้อเขียน ในกรณีสอบสัมภาษณ์นะคะ น้องต้องรวบรวมพวกผลงานต่างๆที่น้องมีใส่เป็นพอร์ทไว้ แล้วเวลาสอบ ทุกครั้งที่อาจารย์ท่านถาม น้องควรจะตอบด้วยเสียงที่มั่นใจและดังชัดเจน พยายามอย่าตื่นเต้นนะคะ ส่วนปีพี่ที่เป็นการสอบข้อเขียนนั้น จะออกแค่ฟิสิกส์ เคมี ชีวะเท่านั้น พวกกายภาพกับดาราศาสตร์จะไม่ออก (ปีที่พี่สอบ) เคมีจะค่อนข้างยาก ฟิสิกส์จะค่อนข้างง่าย ส่วนชีวะจะเน้นมาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทดลองต่างๆ ให้เราวิเคราะห์พวกการทดลอง ตั้งแต่ปัญหาของมัน ไปถึงผลสรุปที่น่าจะเป็น
ส่วนเรื่องเนื้อหาที่จะเรียนในกิฟท์วิทย์ ถามว่า..ต่างกับห้องสายวิทย์- คณิตห้องอื่นยังไง? จริงๆแล้วเนื้อหาที่เด็กกิฟท์วิทย์เรียนจะเหมือนกับห้องอื่นในเกือบทุกวิชายกเว้นวิชาวิทยาศาสตร์(ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา)ที่จะเรียนแตกต่างกับห้องอื่น จะลงรายละเอียดมากกว่า และบางครั้งจะมีเนื้อหาที่ต้องเรียนต่างจากห้องอื่น ส่วนหนังสือ ปีของพี่ใช้หนังสือต่างกับห้องอื่นนะสำหรับวิชาชีววิทยากับฟิสิกส์ พี่เรียนกับ text เอา แบบวิชาชีวะพี่ก็ต้องเรียนกับแคมเบล จากเดิมพี่ไม่เคยอ่านtext ก็ได้อ่าน ได้เรียนกับมัน (อย่ากลัวค่ะว่าจะยากเกินไป พวกพี่ๆพิสูจน์มาแล้ว มันไม่ยากอย่างที่คิดเลย ^O^) อ้อ แล้วก็จะมีนัดเรียนพิเศษเพิ่มตอนเย็น อาทิตย์ละ2วันนะคะ แต่ละปีไม่แน่นอนนะว่าวันไหน แต่ไม่ใช่วันศุกร์แน่ๆ เพราะผู้ชายต้องเรียนรด. ส่วนนอกจากการเรียนจะไม่เหมือนห้องอื่น เวลาสอบ final นั้น ข้อสอบฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ก็จะแยกชุดนะคะ สำหรับห้องพี่โดยเฉพาะเลย555 (เท่ห์จะตายไป เนอะ ^^) อ้อ แล้วก็ต้องทำโครงงานขึ้นมาชิ้นหนึ่ง จะทำเป็นคู่ 2-3 คนค่ะ โครงงานชิ้นนี้ส่งตอนม.6 โดยเรื่องที่เราจะทำเราสามารถเลือกเรื่องไรก็ได้ที่เราสนใจ แล้วนำมาทำเป็นโครงงานเสนอต่ออาจารย์ก่อนจบการศึกษา แต่ไม่ต้องงงนะ ว่าเราจะเอาเวลามาจากที่ไหน เพราะส่วนสำคัญของกิ๊ฟวิทย์อีกอย่าง คือ “หลักสูตรเร่งรัด” ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จะทำให้น้องเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ทั้งหมดจบภายใน 4-5 ภาคเรียน พอม.6 ก็จะเหลือเวลาไว้อ่านหนังสือเตรียม ent’ ! พอเล่ามาถึงตรงนี้แล้ว ทุกอย่างจะดูเครียดไปหมดเลยใช่มั้ย? เปล่าเลยน้อง ชีวิตจริงห้องกิฟท์วิทย์เริงร่ามาก อารมณ์ดีกันเว่อร์ ซึ่งนั่นล่ะ คือสไตล์ของกิฟท์วิทย์ น้องไม่ต้องกังวลเลยว่าคงมีแต่พวกเด็กเรียน ต้องเรียนยาก แถมเครียดอีกต่างหาก ...น้องไม่ต้องห่วง พี่เคยกังวลมาหมดละ แต่น้องเชื่อพี่เหอะนะ ถ้าน้องได้อยู่ห้องกิฟท์วิทย์แล้วเวลาไหนที่น้องรู้สึกเครียด น้องแค่หันมามองคนรอบๆตัวน้อง ดูไว้ พวกนี้ล่ะที่พร้อมที่จะทำให้น้องมีความสุขและพร้อมจะรับฟังทุกปัญหาของน้อง กิฟท์วิทย์เป็นแบบนี้มาทุกรุ่น เราจะช่วยเหลือกันและกัน และพี่ก็เชื่อว่าปีหน้า และรุ่นต่อๆไปก็จะเช่นนี้
นอกจากนี้กิฟท์วิทย์จะมีกิจกรรมพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เช่นตักศิลา และการเข้าค่าย
กิจกรรมตักศิลา เป็นกิจกรรมที่กิฟท์วิทย์จัดขึ้น เป็นการเปิดโอกาสให้น้องมัธยมต้นได้มาลองสอบวัดความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งรุ่นพี่กิฟท์วิทย์ม.5จะเป็นผู้จัดงาน ส่วนม.4ก็จะเป็นสต๊าฟ การสอบจัดขึ้นที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งการสอบตักศิลานั้นจะแบ่งเป็นรอบแรก และรอบสอง (โดยส่วนใหญ่) รอบแรกจะเป็นสอบข้อเขียน (ออกข้อสอบโดยรุ่นพี่ม.5) และรอบสองมักจะเป็นการทำแลป ซึ่งส่วนนี้จะมีอาจารย์มาช่วยดูแล แน่นอนว่ากิฟท์วิทย์ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมกับงานนี้ ตั้งแต่จัดห้องสอบ พารุ่นน้องไปตามสถานที่สอบ ไปจนถึงการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆในการทำแลป การให้คะแนนน้อง (สำหรับคนที่เป็นกรรมการ) และควบคุมให้การสอบเป็นไปได้ด้วยดี งานตักศิลานี้ถือเป็นงานใหญ่งานหนึ่งของกิฟท์วิทย์เลยล่ะ *o*
ส่วนการเข้าค่าย น้องๆก็จะได้ไปสำรวจธรรมชาติ ซึ่งพี่คอนเฟิร์มตรงนี้เลยว่า สนุกสุดๆ ปีพี่ไปนะ ทุกคนอยู่ในอารมณ์เดียวกันหมดคือ ยังไม่อยากกลับ...^ ^แดดอ่อนๆ ลมเย็นๆ อากาศสดชื่นๆ วิวสวยๆ น้องจะได้สัมผัสเข้าถึงคำว่าธรรมชาติอย่างแท้จริงเลย เจอทั้งพืช ทั้งสัตว์ ทั้งแมลงพันธุ์แปลกๆที่น้องไม่สามารถพบได้ในเมือง และไปค่ายครั้งนี้ น้องจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วยวิธีการต่างกับที่น้องเคยเรียนมาก่อน คือน้องจะได้เรียนกับสิ่งที่น้องกำลังเห็นอยู่จริงๆ ไม่ใช่ดูจากภาพในหนังสือเหมือนตอนอยู่ห้องเรียน และความรู้ที่น้องได้รับจะเป็นความรู้ประเภทสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้หมด นี่ล่ะที่เป็นของขวัญพิเศษเฉพาะค่ายครั้งนี้ที่มอบให้กับกิฟท์วิทย์ทุกรุ่น จะว่าไปการเข้าค่ายนี้ก็ถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว ชีวิตมันเครียด ก็ต้องมีรีแลกซ์กันบ้างเป็นธรรมดา แถมได้อยู่กับเพื่อน ได้ทำกิจกรรมมากมายไปพร้อมๆกัน ได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน และสนุกไปพร้อมกันเรียกได้ว่าทำให้พวกเราสนิทกับเพื่อนๆ ในห้องมากขึ้นเยอะเลยล่ะ > < ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตั้ง3ปีเต็มนี่นา
ถึงตรงนี้ พี่ยังไม่ได้บอก สิ่งพิเศษอีกอย่างหนึ่งของกิฟท์วิทย์ คือน้องจะได้อยู่ด้วยกัน3ปี . . . ไม่มีการเปลี่ยนห้อง หรือเอานักเรียนมาเพิ่มเด็ดขาด.. วันแรกที่เราเจอกันถึงวันจบการศึกษา เราก็จะมีกันเท่านี้ ไม่เหมือนห้องอื่นๆที่จะมีการเปลี่ยนห้องทุกๆปี หนึ่งปีผ่านไป น้องยังไม่ทันได้รู้จักเพื่อนคนนี้เลย...อ้าว ต้องอยู่คนละห้องกันละ แต่กิฟท์วิทย์ไม่ใช่ เรามีกันอยู่แค่นี้ และเราต้องอยู่ในรั้วเตรียมอุดมศิกษาด้วยกันถึงสามปีเพราะฉะนั้นเราจึงต้องคอยช่วยเหลือ ประคับประครองและเดินก้าวไปพร้อมๆกัน
เขาถึงบอกไงว่า...กิฟท์วิทย์น่ะรักกัน
และพวกพี่ GS8 ทุกคนก็จะรักน้องๆ GS9 ทุกคนเช่นกันค่ะ
เขาถึงบอกไงว่า...กิฟท์วิทย์น่ะรักกัน
และพวกพี่ GS8 ทุกคนก็จะรักน้องๆ GS9 ทุกคนเช่นกันค่ะ
รอน้องอยู่นะ : )